สิวนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทแล้วสิวอุดตันมันมีลักษณะไหนกันนะ ?
สิวอุดตัน มีลักษณะทางกายภาพ ได้แก่ เม็ด , ตุ่ม , ผื่น ทั้งนี้เกิดจากการที่ต่อมไขมันบนใบหน้าของเราเกิดการอุดตัน สามารถเป็นได้ทั้งสิวผด ไม่มีหัว พบมากในบริเวณหน้าผาก , จมูก , แก้ม เมื่อไหร่ก็ตามที่เหงื่อบนใบหน้าออกมาก และยิ่งมาเจอกับการเช็ดถูผิวหน้าแรงๆ ด้วยแล้วล่ะก็ สิวผดย่อมมาเยือนอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมี สิวหัวดำ สิวหัวขาว และสิวอื่นๆที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
กําจัดสิวอุดตันด้วยการใช้เลเซอร์ CO2
ปกติแล้วสิวสามารถรักษาได้ ซึ่งใช้การทายา หรือการทายาร่วมกับกินยา แต่สำหรับคนที่มีสิวอุดตันอยู่บนใบหน้ามาเป็นเวลานาน และไม่รักษาให้หายได้จากการทายาหรือกินยา แต่ในปัจจุบันนี้เราสามารถกำจัดมันด้วยเทคนิคเลเซอร์ ซึ่งเป็นวิธีรวดเร็ว ทันใจ เห็นผลชัดเจน นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ทางด้านอื่นๆอีกด้วย เช่น ไม่ทำให้เกิดรอยแดง-รอยดำไม่ทำให้เกิดแผลเป็น เป็นต้น
ขั้นตอนในการทำ
- ล้างหน้าให้สะอาด
- ลงยาชาชนิดครีมบริเวณที่มีสิวอุดตัน พอกไว้ประมาน 30-45 นาที
- ทำความสะอาดใบหน้า เช็ดยาชาออกให้เกลี้ยง
- คนไข้ต้องปิดตาระหว่างทำเพราะคุณหมอจะต้องมีการส่องไฟเพื่อหาเม็ดสิวบนใบหน้า
- ระหว่างการทำเลเซอร์คนไข้จะมีอาการเจ็บจี๊ดๆบ้าง แต่รับรองว่าทนได้ รวมทั้งอาจได้กลิ่นไหม้ซึ่งเป็นเรื่องปกติแต่กรณีไปยิงตรงสิวใกล้สุกจะค่อนข้างเจ็บมาก แต่อย่างไรก็ตามขอคุณหมอให้เว้นไว้ได้ แต่สำหรับคนที่ทนได้แนะนำให้ทนจะดีกว่า จะได้เกลี้ยงๆ และเสียงของเครื่องเลเซอร์ค่อนข้างน่ากลัว แต่ไม่เจ็บอย่างที่คิดแน่นอน
- เมื่อยิงเลเซอร์เสร็จแล้ว ก็จะเป็นขั้นตอนในการกดสิว เนื่องจากคุณหมอได้ทำการเปิดหัวสิวไปแล้ว ถ้าคนไหนมีสิวเยอะทั่วทั้งใบหน้าอาจต้องใช้ความอดทนเยอะนิดนึง เพราะค่อนข้างเจ็บ ควรเตรียมใจไปด้วย แต่สำหรับคนที่ไม่ได้มีสิวเยอะมากอะไรนัก ก็ไม่ต้องกังวลเพราะแทบชิวๆเลย
หลังทำแล้วจะเกิดอะไรบ้าง
- หลังจากทำ Co2 ไปผิวหน้าจะปรากฏจุดแดงๆ อย่างเห็นได้ชัดประมาณ 4-7วัน หลังจากนั้นรอยแดงก็จะค่อยๆจางจนหายสนิท แต่ก็มีบางคนที่มีรอยแดงอยู่เกิน 7วัน
- การกําจัดสิวอุดตันด้วยการใช้เลเซอร์ CO2 ส่วนใหญ่แล้วไม่ก่อให้เกิดแผลเป็น ภายหลังจากการทำ5-7วัน ผิวหน้าจะเรียบเนียน แต่สำหรับบางกรณี เช่น เลเซอร์บนสิวอุดตันที่กำลังอักเสบ อาจก่อให้เกิดแผลเป็นจากสิวที่เริ่มแดงและอักเสบซึ่งเป็นไปตามกลไกของร่างกาย เพราะฉะนั้นการหายของแผลก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย